การทำงานของสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง
การทำงานของสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง
วันนี้แอดมินจะพาไปทำความรู้จักกับกลุ่มสารที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งครับ
โดยตามธรรมชาติปกติผิวหนังของคนเราจะมีสารเคลือบผิวต่างๆ ที่ทำหน้าที่ปกป้องการสูญเสียความชุ่มชื้น เช่น ขี้ไคล จะอยู่บนหนังกำพร้าชั้นบนสุด (Stratum Corneum) โดยจะเป็นแผ่นใสคลุมผิวอยู่ด้านบน และยังมีน้ำมันเคลือบผิวหล่อเลี้ยงซึ่งช่วยเก็บความชุ่มชื้นของผิวไว้อีกชั้นหนึ่งด้วย
แต่ในบางสภาวะของผิวหนัง เช่น การอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานๆ (เครื่องปรับอากาศจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว) การชำระล้างเกินความจำเป็น (ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความเป็นด่างสูง เช่นสบู่ก้อน) ในฤดูหนาวซึ่งอากาศค่อนข้างแห้ง โรคผิวหนังแห้งจากพันธุกรรม ในสภาวะเหล่านั้น น้ำจะมีอัตราการระเหยจากผิวหนังเพิ่มมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์เพิ่มเพื่อความชุ่มชื้นจึงเป็นที่นิยม จนกลายเป็นความจำเป็นขึ้นมา
ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว (Moisturizer) สามารถทำเบสของผลิตภัณฑ์ให้เป็นได้ทั้ง ครีม โลชัน เจล สเปรย์ เซรั่ม โซลูชั่น
โดยมีหลักการทำงาน เพื่อให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
กระบวนการทำงานของเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้ง จะมีการใส่สารประกอบอยู่ 2 ลักษณะ คือกลุ่มสารที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และสารเคลือบผิวที่ป้องกันการระเหยออกของน้ำใต้ผิว
ในกระบวนการผลิตเครื่องสำอาง จะมีการใส่สารช่วยเพิ่มน้ำในชั้นผิวหนัง เช่น กรดอะมิโน
โซเดียมพีซีเอ (Sodium Pyrrolidone Carboxylic Acid) โพลิเพปไทด์ ยูเรีย
แลคเตต ฯลฯ
ส่วนสารป้องกันการระเหยของน้ำจากชั้นผิวที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางนั้น มักเป็นสารประเภท
ซิลิโคน น้ำมัน ขี้ผึ่ง ไขสัตว์ นอกจากนี้ในการผลิตเครื่องสำอางยังสามารถเติมสารที่ทำหน้าที่ดูดความชื้นจากบรรยากาศเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำจาก
เนื้อครีม เช่น กลีเซอรีน น้ำผึ้ง กรดแลกติคได้อีกด้วย
Re-write ใหม่จาก บทความของ ดร.จิราภรณ์ เชาวลิต แมกาซีนเคมีน่ารู้ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 มิถุนายน 2547
อีเมล์ติดต่อ
กรุณาใส่ตัวหนังสือที่แสดงอยู่บนรูปข้างล่าง. ตัวอักษรจะเป็นภาษาอังกฤษตัวเล็ก และตัวเลข 1 ถึง 9